พูดถึงฟินแลนด์ นึกถึงอะไรได้บ้าง
พี่บิ๊ก (บ.ก. อะบุ๊ค) พูดถึงซานตาคลอส กับโนเกีย
พร้อมกับให้ไปคิดมาเพิ่มอีกด้วยนะ
…..
เรานึกถึงหิมะและซานตา หิมะนี่นึกเอาเอง
ส่วนซานตาเนี่ยเพิ่งรุ้จากพี่บิ๊กเมื่อกี๊นี้เอง55
ฟินแลนด์ไม่มีแขน คือ หนังสือเล่มที่สองของ ใบพัด ต่อจากเสียดายคนอินเดียไม่ได้อ่าน
ซึ่งเราไปเกี่ยวข้องด้วยก็ตรงได้ทำปกให้เค้าเนี่ยแหละ
ว่าแต่ฟินแลนด์มันนึกถึงอะไรได้อีกมั่งนะ….
พี่ใบพัดบอกว่า ฟินแลนด์เป็นประเทศที่ไมค่อยจะมีอะไรเป็นจุดเด่นเลย
ชักเห็นด้วยแล้วสิ
ที่ชัดๆสุดตอนนี้ ก็คือ
1.บ้านซาตาคลอสอยู่ ฟินแลนด์
2.ฟินแลนด์หนาวและมีหิมะ
และ 3.ธงชาติฟินแลนด์คือกากบาท(หรือกางเขนนั่นแหละ)สีฟ้า
ทุกอย่างเลยมารวมอยู่ในปกแรกที่เอาไปเสนอ
…
ปกแรกเหมือนหลายๆคนจะชอบแต่ก็เรียบไปหน่อย
….
ปกที่สองเลยลองใส่แพทเทรินเกล็ดหิมะเข้าไปด้วย
(เราชอบแบบนี้ที่สุด)
ส่วนอีกแบบนึงอยากให้ลองใส่ซานตาลงไปดู
ด้วยวิธีการไหนก็ได้
ก็เลยได้แบบนี้ออกมา
ตั้งใจจะให้เคราขาวๆของซานตาแทนหิมะจากปกเดิม
รวมกับที่พี่ใบพัดอยากให้มันมีฟอแมทเดียวกับเล่มเดิมด้วย
ซึ่งคือ ขอบด้านข้างกับวงกลมตรงกลาง
จะให้มันดูเป็นซีรี่ย์เดียวกันของนักเขียนไปเลย
ถึงตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกกันแล้วว่ามันชักหลุดๆจากอารมณ์หนังสือไปแล้ว
เลยกลับมาที่สีโทนเย็นๆอีกที ทีนี้พี่ใบพัดเค้าเลยเสนอให้เอาเกล็ดหิมะไปไว้เป็นขอบแทน
“ก็ดีนะพี่”
ถ้าได้ขอบเห็นเงินๆคงสวยเลย แต่มันเยอะเกินไป ราคาตอนพิมพ์ก็แพงใช้ได้เลย
ปกหลังๆก็กลับมาเป็นบรรยากาศ หิมะๆแล้ว
แต่จะให้เป็นบ้านซานตาอย่างเดียวมันก็ดูเหงาเกินไป
เลยใส่ซานตาลงไปด้วยวิธีภาพจำที่คุ้นเคย คือขี่เลื่อนกับฝูงกวางพาดผ่านดวงจันทร์
…..
แต่หนังสือมันไม่ได้มีอารมณ์โรแมนติกขนาดนั้นเลยต้องจัดการอะไรกับซานตาอีกสักหน่อย
สุดท้ายเลยออกมาแบบนี้
หลังจากนั้นปรับแก้สีอีกนิดๆหน่อย พี่บิ๊กอยากให้มีคู่สีสดๆให้ตัวหนังสือดูเด่นๆขึ้นมา
แล้วปรับเอาขอบของตัวหนังสือเป็นสีขาวแทน
ซึ่งเราก็ว่าดีนะ ดูเชื่อมๆกับตัวบ้านและตันไม้ดี
อีกอย่างดูเหมือนมีหิมะปุยๆคลุมตัวหนังสือไว้อีกด้วย
แต่ที่ยังไม่แน่ใจก็คือ เสปคที่จะพิมพ์ในบริเวณนี้มันจะเป็นพิมพ์เงิน
เลยไม่รู้ว่าพอออกมาจริงๆแล้วมันจะยังดูปุยๆแบบตอนนี้หรอป่าวน่ะสิ
อาทิตย์นึงก่อนจะปิดอาร์ทเวริคปกเล่มนี้
ไปหาข้อมูลงานดีไซน์ของฟินแลนด์อีกที
นอกจาก marimekko ที่งานออกจะตะโกนด้วยการใช้สีอันแสบสันแล้ว
งานอื่นๆดูเหมือนจะนิ่งเงียบและสงบ ไม่แปลกเลยที่งานใช้สีสันจะแหกออกมาเด่นขนาดนั้น
แต่เรากลับชอบงานอื่นๆของฟินแลนด์ไปเลยนะ
ดูสงบ ซึ่งไม่ต่างจากญี่ปุ่น และสองประเทศนี้ดูจะมีอะไรที่คล้ายๆกัน
แล้วยังเคยทำโปรเจคดีไซน์ร่วมกันอีกด้วยเมื่อหลายปีมาแล้ว
หัวข้อ “designing the quietness”
ฟังดูน่าสนใจดีเนอะ
ลองหาไปข้อมูลเพิ่มดีกว่า
^ ^
ป.ล. หนังสือออกสิ้นเดือนนี้นะ เปิดตัวงานอะบุ๊คแฟร์
June 15, 2008 at 17:47
ชอบปกซานต้าอะพี่หมี
น่าร้ากกก…
ถ้าเอามาริเมกโกะจริง
เอาดอกมาใส่เลยพี่
แดงแปร๊ดไปทั้งปก ฮ่า ๆ
เบนซ์จูห้าครับผม
June 17, 2008 at 09:47
ยาวจริงๆ ด้วย
…
ยังยืนยัน งานพี่หมีงุงิเกินชายจริงๆ
ซึ่งดะฮั้นชอบ
มา kitsch กันไหมคะ
June 18, 2008 at 04:43
นึกว่าหนังสือคุณนิ้วมกลมซะอีก – -”
ปกสวยดีเน่อ
:)
June 20, 2008 at 02:08
พี่ใช้เวลานานมากกว่าจะออกหนังสืออีกเล่ม
ผมรอหนังสือพี่มานานมากกกกกกกก
หลังจากอ่านอินเดีย
555+
ยังไงก็จะไปหามาอ่านให้ได้
June 20, 2008 at 02:10
เออ เกือบลืม ไม่ได้ถามว่าบล๊อกนี้ของใบพัดใช่ป่าว(กลัวทักคนผิด) เพราะคิดว่าต้องใช่แน่ๆ
555+
June 20, 2008 at 02:48
ไม่ใช่บล๊อกของพี่ใบพัดครับ
แต่จะมีบริการส่งข้อความนี้ไปให้พี่ใบพัดเค้าแล้วกัน
:)
June 20, 2008 at 02:49
อ้าว จริงๆ หรอ แล้วมีบล็อกของพี่ใบพัดหรือเปล่า
หรือว่านีคือพี่เต้ย ตอนอินเดีย
งงงงงงงงง
July 2, 2008 at 23:47
สวัสดีค่ะ
พอดีเพื่อนกลับเมืองไทย แล้วก็บอกว่า มีหนังสือวางขายชื่อ ฟินแลนด์ไม่มีปีก
อยากอ่านมากๆ เลย อยากทราบว่า ทำไมฟินแลนด์ไม่มีปีก เพราะแสดงว่า ตอนนี้เราอยู่ในประเทศที่ไม่มีปีกเหรอเนี๊ยะ
ว่าด้วยเรื่องมาริเมโกะ ยี่ห้อนี้ ของเค้าแพงจริง แพงจัง แพงอลังการงานสร้างมากค่ะ แต่ด้วยความรักชาติของคนฟินน์ แพงแค่ไหนก็ซื้อได้ อะไรที่เป็นของฟินน์ แม้จะแพงลิบลิ้ว ไร้เหตุผล คนฟินน์ ก็ซื้อ เพราะคนฟินน์ เชื่อว่าของฟินน์มีคุณภาพ
ส่วนของนอกที่นำมาขายในฟินน์ จะราคาถูกกว่าของฟินน์
ต่างกับประเทศเราเลยค่ะ
ประเทศไทย อะไรของไทย ถูกมาก
อะไรของนอก แพงงงงง มาก
ลาแล้วดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะยาว
ขอให้หนังสือขายได้เยอะๆ นะคะ
เด็กขั้วโลก
July 2, 2008 at 23:48
เอ้ย เขียนผิด ค่ะ ขอโทษที
หนังสือเรื่อง ฟินแลนด์ไม่มีแขน
อายจัง กำลังง่วงเลยค่ะ จะตีสามแล้ว
ลาแล้วค่ะ
July 3, 2008 at 17:30
คุณเด็กขั้วโลก>
ของมารีเมกโกะนี่ ท่าทางจะไม่ได้แพงเฉพาะในฟินน์แน่ๆรึป่าวครับ
แต่ยอมรับว่าสวยมากเหมือนกัน บางทีเพราะสีสดๆที่อยู่กับทิวทัศน์ที่ฟินน์อาจจะทำให้ลุคที่ออกมาดูดีทีเดียว
ตอนที่มีนิทรรศการที่นี่ ผมเองก็ได้มีโอกาสไปดูอยู่แต่เจ็บใจที่ตอนนั้นไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่พอได้ดูในหนังสืออีกที ก็รู้สึกเสียดายขึ้นมาทันที
แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากไปอยู่ดูมารีเมกโกะที่ฟินน์นานๆซักทีนะครับ
^ ^
แล้วจะฝากคำอวยพรไปให้คนเขียนนะครับ
July 5, 2008 at 06:19
ยังงัยก้อต้องอ่านนนนนนนนนนน
หั้ยได้เลยยยย
July 5, 2008 at 06:21
เสียดายคนอินเดียไม่ได้อ่าน ขำอุจ..แตกเลยยยย
เล่มนี้ น่าจะสนุกนะ อิ๊ อิ๊
July 5, 2008 at 10:56
เราชอบสีเขียวอ่ะ
ถ้าเป็นเราเราจะเลือกสีเขียว
แต่นี่ไม่ใช่เรา เค้าเลยเลือกสีฟ้า
July 5, 2008 at 10:58
รูปแรกเหมือนปกหนังสือนอกเวลาภาษาอังกฤษตอนเด็กๆเลยเนอะ สวยดี
(คำขยายเยอะมากมาย)
July 6, 2008 at 16:21
อยากอ่านเล่ม ฟินแลนด์ไม่มีปีกมากเลย (ปกแอบสวยซะด้วย สีคนละแนวกับเรื่อง อินเดียเลย) ไม่รู้ว่าคุณใบพัดยังเป็นเด็กติ๋มเหมือนเดิมรึเปล่า แต่ว่าเด็กติ๋มคนนี้เขียนหนังสือสนุก อ่านเพลิน อ่านๆไป ดั๊นได้ข้อคิดแบบไม่ได้ตั้งใจอีกต่างหาก ยิ่งพูด ยิ่งอยากอ่าน แต่ว่าแถวบ้านหนังสือยังไม่มาเลย เศร้าจัง
July 6, 2008 at 16:27
ขอโทษทีค่ะ ฟินแลนด์ไม่มีแขน (เอ แต่ว่าฟินแลนด์ก็คงไม่มีปีกหรอกมั้ง) (พอดีอ่านข้างบนเพลินไปหน่อยก็เลยพิมพ์ผิดน่ะค่ะ) : )
July 7, 2008 at 20:08
คุณ namo > ผมยังไม่เคยอ่านอินเดียเลยอ่ะ
แอม > หนังสือนอกเวลานี่เล่มไหนเหรอ จำไม่ได้แล้วอ่ะ
คุณนุ่น > เห็นด้วยที่ว่า อ่านไปอ่านมาดั๊นได้ข้อคิดแบบไม่ได้ตั้งใจนะ พี่คนนี้เค้ามีของครับ55
July 8, 2008 at 06:43
อาห์ ช่างเป็นหนังสือที่ปกสวยและเนื้อหาเลอค่ามากครับ
ของสำนักพิมพ์อะไรนะครับ?
วุฮ่ะฮ่ะฮ่า :-D